วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553

โรคเบาหวาน


เบาหวาน เป็นภาวะที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ทำให้น้ำตาลที่ร่างกายดูดซึมมาจากทางเดินอาหารเกิดอาการคั่งค้างจนล้นออกมาทางปัสสาวะ อาหารที่รับประทานเข้าไปส่วนใหญ่จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดเพื่อใช้เป็นพลังงาน เซลล์ในตับอ่อนชื่อเบต้าเซลล์เป็นตัวสร้างอินซูลิน อินซูลินเป็นตัวนำน้ำตาลกลูโคสเข้าเซลล์ การขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือประสิทธิภาพของอินซูลินลดลงเนื่องจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอยู่เป็นเวลานานจะเกิดโรคแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่างๆ เช่น ตา ไต และระบบประสาท

อาการ...ของผู้ที่เป็นเบาหวาน



ชนิดของโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานชนิดที่ 1 พบประมาณ 5% มักเกิดในเด็กจนถึงวัยรุ่น เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้เพียงพอ ต้องใช้ฉีดอินซูลินทุกวัน
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 พบประมาณ 95% มักเกิดในผู้ใหญ่จนถึงสูงอายุ การทำงานของอินซูลินไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ต้องใช้การลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย ร่วมกับการรักษาด้วยยาเบาหวานชนิดกินหรือฉีด

ระดับน้ำตาลในกระแสเลือด


โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวาน

แบ่งออกออกเป็น 2 แบบ ได้แก่
โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวานแบบที่ 1. แบบฉุกเฉิน
ได้แก่ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ , ภาวะช๊อกจากน้ำตาลในเลือดสูง และภาวะเป็นกรดในเลือด ซึ่งเป็นภาวะที่ผู้ป่วยและญาติต้องทราบสาเหตุ อาการและการแก้ไขเบื้องต้น เนื่องจากหากไม่ได้รับการแก้ไขให้ทันเวลาอาจจะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร
โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวานแบบที่ 2. แบบโรคแทรกซ้อนในระยะยาว
เป็นโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากการเป็นโรคเบาหวานเป็นระยะเวลานานหลายปี เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดแข็ง โดยภาวะที่พบบ่อยๆ คือ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคตา โรคปลายประสาทอักเสบ โรคเบาหวานกับเท้า เป็นต้น
ภาวะฉุกเฉินของโรคเบาหวาน

1.ภาวะฉุกเฉินเลือดเป็นกรด
2.ภาวะฉุกเฉินน้ำตาลในเลือดสูง
3.ภาวะฉุกเฉินน้ำตาลในเลือดต่ำ



1. ภาวะฉุกเฉินเลือดเป็นกรดจากโรคเบาหวาน

เป็นภาวะฉุกเฉินที่พบบ่อย โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่หนึ่ง เกิดจากการเสียสมดุลของอินซูลิน ซึ่งอาจจะขาดหรือน้อยไป กับฮอร์โมนต้านฤทธิ์อินซูลิน สูงขึ้นทำให้ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลสูง และมีกรดในเลือด ซึ่งเกิดจากการคั่งของคีโตนในเลือด ซึ่งคีโตนนี้เป็นกรด จะตรวจพบในปัสสาวะหากว่าอินซูลินไม่พอ หรือคุมเบาหวานไม่ดี

สาเหตุ



เกิดจากร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลกลูโคสเป็นพลังงานได้ จึงนำไขมันมามาใช้แทนเกิดเป็นสารคีโตน ซึ่งการพบคีโตนในเลือดแสดงว่า




1.อินซูลินไม่พอ อาจจะเกิดจากลืมฉีด หรือภาวะที่ต้องการอินซูลินเพิ่ม เช่นเวลาเจ็บป่วย เมื่ออินซูลินไม่พอร่างกายจึงเผาไขมันเป็นพลังงาน




2.ได้อาหารไม่พอ เช่นเวลาเจ็บป่วยรับประทานอาหารไม่พอ




3.ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป ร่างกายก็เผาไขมันมาใช้เป็นพลังงาน

ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคนี้




§ โรคหลอดเลือดสมอง
§ ตับอ่อนอักเสบ
§ เส้นเลือดหัวใจตีบ
§ สุรา
§ ยาบางชนิด
ยนิด




อาการ

  • คลื่นไส้ อาเจียนมาก
  • ปวดท้อง
  • คอแห้ง
  • กระหายน้ำ
  • ปัสสาวะมาก
  • ลมหายใจมีกลิ่นหวานของอะซีโตน และคีโตน
  • หายใจหอบลึก ตรวจพบคีโตนในปัสสาวะ

การป้องกัน
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ทั้งการควบคุมอาหารการฉีดอินซูลิน และการออกกำลังกาย
    ไม่ควรออกกำลังกายหากน้ำตาลในเลือดสูงเกิน 240 มก. %
  • ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ ตรวจหาสารคีโตนในเลือดเมื่อน้ำตาลในปัสสาวะ4บวก
  • ห้ามหยุดอินซูลินเมื่อเวลาป่วย

การแก้ไข

  • การให้อินซูลินออกฤทธิ์ระยะสั้นเพิ่มขึ้นจากเดิม 5-10 ยูนิต ถ้าอีก 4 ชั่วโมงต่อมายังตรวจพบคีโตนอีกให้ฉีดซ้ำได้อีก
  • การให้ดื่มน้ำมากๆ

  • การให้เกลือแร่ และให้ด่างเมื่อมีความจำเป็น

การรักษาหรือขจัดสิ่งชักจูง

ยารักษาโรคเบาหวาน

แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ยาเบาหวานชนิดรับประทาน และ ยาเบาหวานชนิดฉีด

ยาเบาหวานชนิดรับประทาน

ยาที่ใช้ในเบาหวานปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 4 พวก

1. ยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นตับอ่อนให้สร้างฮอร์โมนอินซูลินเพื่อลดน้ำตาลในเลือด










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น